การประหยัดเงินนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและการที่เราได้ทั้งประหยัดเงินทั้งได้ร่วมช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมก็ยิ่งดีขึ้นไปอีกใช่ไหมล่ะ? ซึ่งนั่นก็เป็นแนวคิดของ Yindii แอปพลิเคชันที่สนับสนุนให้เราไปดูแลโลกด้วยการ rescue อาหารที่ขายไม่หมดในแต่ละวันในราคาพิเศษจากร้านอาหารและคาเฟ่ทั่วกรุงเทพ
ขยะอาหารมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่ทุกคนคิด
จากบทสัมภาษณ์ของทาง BK Magazine ผู้ร่วมก่อตั้งบริการ Yindii อย่าง Louis-Alban Batard-Dupre ก็ได้เล่าว่า แต่ละปีมนุษย์ได้ผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากขยะอาหารโดยประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ และประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์สำหรับอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งก็แปลว่าขยะอาหารปล่อยก๊าซมากกว่าเกือบ 4 เท่าเลยทีเดียว ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ การเกิดก๊าซมีเทนที่มาจากกระบวนการการย่อยสลายของขยะอาหาร ซึ่งมันส่งผลทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนรุนแรงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 25 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยแหละ
พูดถึงการบริการ
การบริการกอบกู้อาหารเคยมีมาก่อนแล้วอย่างเช่น Too Good To Go ที่ถูกก่อตั้งในปี 2016 ที่ Copenhagen (ตอนนี้มีให้บริการมากถึง 15 ประเทศ) อย่างไรก็ตามบริการแบบนี้มันก็ยังใหม่มากๆ ในบ้านเรา เราจึงมีตัวเลือกร้านอาหารบนแอป Yindii ที่อาจจะยังไม่มากเท่าแอปสั่งอาหารทั่วไป และร้านส่วนมากตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพเท่านั้น ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เขาก็มีร้านที่หลากหลายอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Ohana Poke, Drop by Dough, Landhaus Bakery ไปจนถึงร้านอาหาร plant-based อย่าง Broccoli Revolution ซึ่งการกอบกู้อาหารก็จะมาในรูปแบบเหมือน mystery box เราจะไม่รู้ว่าเราจะได้อะไรแบบเป๊ะๆ (ก็สนุกไปอีกแบบนะ)
รีวิวการกอบกู้อาหารจากแอป
ต้องบอกก่อนว่าการสั่งอาหารจาก Yindii มันไม่เหมือนกับการสั่งจากที่อื่น เพราะอาหารที่เราจะทำการ rescue นั้นเป็นอาหารที่ทางร้านขายไม่หมดจากการขายในวันนึง ซึ่งก็แปลว่าเราก็อาจจะต้องรอถึงเวลาประมาณเย็นๆ หน่อยอาหารถึงจะมาส่ง 6 โมงถึงทุ่มนึงไรงี้ เวลาอาหารเย็นพอดีแหละ แต่ว่าเราก็ต้องจองอาหารก่อนตั้งแต่ตอนกลางวัน มาถึงการใช้งานของแอป มันก็อาจจะยังไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร่ แต่ก็ใช้งานได้ในระดับนึง ส่วน customer service ดีมาก (แต่เขาอาจจะไม่รู้ถึงพวกรายละเอียดยิบย่อยเกี่ยวกับอาหารนะ) ส่วนของการจัดส่ง เราเลือกเดลิเวอรี่หรือไปรับเองได้ ทาง Yindii ใช้บริการเดลิเวอรี่ของหลายๆ แบรนด์ ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป เราซื้ออาหารจาก BBCO ซึ่งอยู่ใกล้กับเราแต่เราเสียค่าส่งไป 70 บาท กลับกันเราเสียค่าส่ง 40 บาทจากร้านที่อยู่ไกลอย่าง Hummus Heads เรื่องราคา ถือว่าคุ้มเลยแหละ เราได้ขนม 2 ชิ้นจากร้าน Paris Mikki ในราคา 250 บาท (ปกติชิ้นละประมาณ 200 บาท) และขนมปังกับเพรทเซล 7 ชิ้นจากร้าน Bei Otto มาในราคา 125 บาทเอง (กินได้ทั้งบ้าน ?) พูดถึงคุณภาพ ถ้าไม่บอกเราก็แยกไม่ออกเลยแหละว่านี่เป็นอาหารที่ขายไม่หมด
สุดท้ายนี้เราก็มองว่าการสั่งอาหารจาก Yindii ก็เหมือนเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ลองอาหารใหม่ๆ ที่ปกติเราอาจจะไม่เคยคิดจะสั่ง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะสะดวกแค่สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใจกลางเมืองเท่านั้น ส่วนในเรื่องของการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อม วิธีนี้มันก็อาจจะช่วยในส่วนเล็กๆ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรจะ mindful กับการใช้ชีวิตประจำวันของเราให้มากขึ้นจะดีกว่า ถ้าใครอยากลองก็โหลดแอปได้ที่นี่เลย
การใช้งานแอป / UX: 5/10
คุณภาพ / quality: 8/10
ความหลากหลายของร้าน / selection: 5/10
ความสะดวก / convenience: 7/10
ความคุ้มค่า / value: 7.5/10
แนะนำให้ลอง / recommendation rating: 7/10
- ขอบคุณทุกคนที่อ่านน้า ถ้ามีข้อคิดเห็นหรือข้อแนะนำอะไร ติดต่อมาได้ที่นี่เล้ย labs@longdo.com
- นอกจากเรื่องนี้แล้ว เรายังมีเรื่องอื่นของสัปดาห์นี้อีกนะ
- ยังไม่พอใช่ไหม? ไปดูคอนเทนต์รายสัปดาห์อื่นๆ ของเรากันที่นี่สิ ?